สายพิณขายกิจการของเธอที่ฮ่องกงก่อนจะย้ายไปยังเกาะเจอร์ซีย์ที่ซึ่งญาติของเธออาศัยอยู่ เธอยังคงปรุงอาหารไทยจำหน่ายแต่เฉพาะในแวดวงญาติมิตร และเดินทางเข้ากรุงลอนดอนเป็นบางครั้งเพื่อซื้อวัตถุดิบ สายพิณกลับมาที่ฮ่องกงอีกครั้งและพบกับอเล็กซ์ มอร์ ใน ค.ศ. 2001 เธอสมรสกับอเล็กซ์สี่ปีถัดมา ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดร้านอาหารไทยแบบข้าวกล่อง ซึ่งเป็นร้านอาหารแห่งแรกของเธอด้วย[5]ชื่อว่าตุ๊กตุ๊กไทย (TukTuk Thai)[2]

สายพิณและสามีย้ายไปอยู่ในกรุงลอนดอนใน ค.ศ. 2006[5] เธอเปิดแผงขายอาหารไทยในตลาดนัดสุดสัปดาห์ย่านบริคเลน ในขณะที่วันธรรมดาเธอใช้บ้านของเธอทำธุรกิจจัดเลี้ยง ใน ค.ศ. 2008 เธอเปิดร้านอาหารชื่อว่าโรซาส์ไทยคาเฟ่ (Rosa's Thai Cafe) ริมถนนฮันบรีในย่านสปิทัลฟีลส์[2] ชื่อโรซาเป็นชื่อของเจ้าของธุรกิจคนก่อนที่เปิดคาเฟ่ขายอาหารเช้า[5] สายพิณให้เหตุผลในการรักษาชื่อเจ้าของธุรกิจเดิมว่า "ดูขลังดีและตัวอักษรชื่อร้านก็สวย"[1] โรซาส์ไทยคาเฟ่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและขยายสาขาไปทั่วกรุงลอนดอน[2] เธอเปิดลาวคาเฟ่ (Lao Cafe) ในย่านคอเวินท์การ์เดินจำหน่ายอาหารลาว[6] ใน ค.ศ. 2017 โรซาส์ไทยคาเฟ่ขยายสาขาออกไปเป็น 8 สาขาในกรุงลอนดอน[6]ก่อนที่จะขยายเป็น 22 สาขาทั่วสหราชอาณาจักรใน ค.ศ. 2019[7]

นอกจากนี้เธอยังเขียนคู่มือทำอาหารไทยสองเล่มจากเมนูที่จำหน่ายในร้านด้วย โดยเล่มหนึ่งเป็นเมนูมังสวิรัติทั้งหมด[8]

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2020 สายพิณและสามีซื้อกิจการร้านอาหารเครือ Andina & Ceviche ในกรุงลอนดอนซึ่งกำลังจะล้มละลาย[9] ซึ่งเป็นร้านอาหารร้านแรกของเธอที่ไม่ได้จำหน่ายอาหารไทยหรือลาว